วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM)

จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) ได้รับการพัฒนาและเป็นการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ในระหว่างปี 2510-2525 โดยศาสตราจารย์ ดร. เทรูโอะ ฮิหงะ จากภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยริวกิว โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น










การจัดประเภทของ EM
กลุ่มที่ 1 จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photosynthetic bacteria)
     สังเคราะห์สารอินทรีย์และสร้างความสมบูรณ์ให้ดิน ได้แก่ กรดอะมิโน (Amino acid), วิตามิน (Vitamins)ฮอร์โมน(Hormone)  เช่น Rhodopseudomonas spp.
ที่ 1 จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photosynthetic bacteria)
สังเคราะห์สารอินทรีย์และสร้างความสมบูรณ์ให้ดิน ได้แก่ กรดอะมิโน (Amino acid), วิตามิน (Vitamins)ฮอร์โมน(Hormone)  เช่น Rhodopseudomonas spp
กลุ่มที่ 2 จุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมัก(Zymogenic / Fermented bacteria)
     เกิดการย่อยสลายแบบหมัก เป็นหัวเชื้อในการผลิตปุ๋ยหมัก เช่น ยีสต์ (Yeast : Saccharomyces spp.)และแอคติโนมัยซีสต์(Actinomycetes : streptomyces spp.)
กลุ่มที่ 3 จุลินทรีย์สร้างกรดแลคติค       (Lactic acids bacteria)
     เปลี่ยนสภาพดินเน่าเปื่อย / ก่อโรค ให้เป็นดินต้านทานโรค ช่วยในการงอกของเมล็ด - ย่อยสลายเปลือก เช่น พวกแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus spp.)
อาจารย์คาซูโอะ วาคุกามิ

 ผู้นำเทคโนโลยี EM เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย
โดยเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนศูนย์ฝึกอาชีวเกษตรสงเคราะห์เชียงใหม่ เมื่อ ปี พ.ศ. 2518 และ ตั้ง ศูนย์เกษตรธรรมชาติคิวเซ เพื่อเผยแพร่เทคโนโลยี EM เมื่อปี พ.ศ. 2531 และตั้งมูลนิธิเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อปี พ.ศ. 2547



วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

การใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพกับสุนัขและสัตว์เลี้ยง


การใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพกับสุนัขและสัตว์เลี้ยง
                   
ท่านรู้หรือไม่ว่า ไม่เฉพาะเจ้าของและคนรอบๆข้างเท่านั้นที่เครียดกับกลิ่นเหล่านี้ สุนัขที่กินนอนอยู่กับกลิ่นฉี่และมูลของมันเองนั่นแหละยิ่งเครียดหนัก โดยแสดงอาการดุ เห่า เซื่องซึมหรือสุขภาพไม่แข็งแรงบ่อย เพราะสัตว์เลี้ยงก็มีหัวใจเหมือนคนเรา รับรู้ได้ทุกอย่าง ยิ่งถูกจำกัดในพื้นที่แคบๆ ( กรง/คอก ) ก็ยิ่งทำให้เกิดอาการเครียดเป็นประจำ เพื่อสุขภาพจิตสัตว์เลี้ยงของท่านดีขึ้น ดับกลิ่นฉี่และมูลของสุนัขด้วย จุลินทรีย์บำบัดกลิ่น ซึ่งไม่มีสารเคมีใดๆเจือปน ไม่เสี่ยงต่อการตกค้างของสารเคมีในสุนัขของท่านถึงแม้จะรับประทานจุลินทรีย์เข้าไป ซึ่งในทางตรงกันข้ามจะเป็นประโยชน์ต่อระบบการย่อยของสุนัข
     จุลินทรีย์บำบัดกลิ่น
 สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ  แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการนำไปประยุกต์ใช้กับสัตว์เลี้ยงต่างๆ โดยเฉพาะสุนัขหรือหมา ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ไทยหรือพันธุ์จากต่างประเทศ บางท่านอาจจะเลี้ยงไว้ดูเล่นเป็นงานอดิเรก แต่บางท่านอาจจะเลี้ยงหรือเพาะพันธุ์ขาย ซึ่งนับวันคนจะนิยมเลี้ยงสุนัขมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งมีให้เลือกหลายสายพันธุ์และราคาก็ค่อนข้างสูง  ดังนั้นจึงต้องหมั่นดูและถนุถนอมสูงมาก แต่ก็มีปัญหาอยู่ดีโดยเฉพาะในเรื่องปัสสาวะหรือฉี่และอุจจาระหรือมูลสุนัข ซึ่งถ้าหมักหมมสะสมเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็จะสร้างปัญหาในเรื่องของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งส่งกลิ่นโดยตรงรบกวนเจ้าของและประการสำคัญก็คือรบกวนจิตใจของสุนัขเอง ซึ่งจะก่อให้เกิดสุนัขเครียดขึ้นมาได้ ซึ่งอาจจะแสดงออกมาในรูปการดุดันหรือส่งเสียงเห่า เดินวนรอบๆกรง จุดนี้ส่วนมากเจ้าของสุนัขมักจะมองข้ามไป นึกว่าสุนัขอย่างไรมันก็ไม่แคร์กลิ่นของมันเอง ซึ่งคิดผิดถนัด ในความเป็นจริงแล้ว สุนัขก็มีชีวิตและหัวใจเหมือนเราท่านนี่เอง เพียงแต่สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงชั้นต่ำกว่ามนุษย์  ในเรื่องความต้องการบางอย่างก็มีเหมือนกับคนเรา ทั้งอาหาร สิ่งแวดล้อม ถ้าสิ่งแวดล้อมเสีย บ้าน ( กรงหรือคอก ) มีกลิ่นแรงก็ย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิตของสุนัขเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามในปัญหานี้  การใช้สารเคมีหรือน้ำยาเคมีในการทำความสะอาดสุนัขหรือทำความสะอาดคอกสุนัขกรงสุนัข มีผลกระทบกับสุนัขแน่นอน เพียงแต่จะกระทบมากหรือน้อยเท่านั้น อาจจะมีสารเคมีตกค้าง ซึ่งล้างออกไม่หมดติดตามพื้นหรือกรงสุนัข พฤติกรรมสุนัขนั้นไม่ค่อยอยู่เป็นสุข เขาจะเลียตามจุดต่างๆเรื่อยไป สารเคมีที่ตกค้างตามพื้นหรือกรงอาจเข้าสู่ร่างกายของสุนัขตัวโปรดได้ง่ายๆ ถ้าสะสมนานวันเข้าอาจเป็นอันตรายต่อสุนัขได้
        จุลินทรีย์บำบัดกลิ่นหรือดับกลิ่น คือทางเลือกใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทแทนสารเคมี เนื่องจากจุลินทรีย์ดับกลิ่นไม่ใช่สารเคมีและไม่มีสารเคมีเจือปนแต่อย่างใด จุลินทรีย์ดับกลิ่น คือจุลินทรีย์หรือจุลชีพสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากที่ได้มากจากกระบวนการหมักพืช ( อ้อย ) และเป็นจุลินทรีย์กลุ่มที่มีประโยชน์และประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในเรื่องการกำจัดกลิ่นทุกชนิด ( ยกเว้นสารเคมี ) ที่มาจากสารอินทรีย์  ดังนั้นทั้งกลิ่นสุนัขที่เป็นฉี่และมูลจึงเป็นเรื่องง่ายในการดับกลิ่นเหล่านี้ จุลินทรีย์ดับกลิ่นยังครอบคลุมไปถึงการดับกลิ่นของฉี่และมูลของสัตว์เลี้ยงทุกชนิด
        การใช้จุลินทรีย์กำจัดกลิ่นปัสสาวะและอุจจาระสุนัข ( ฉี่และมูล )
          ในการใช้ครั้งแรก ควรใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่นสดๆเพียวๆ คือไม่ผสมกับน้ำ เทอีเอ็มพอประมาณลงในกระบอกฉีด ( ห้ามใช้กระบอกฉีดสารเคมี ) หรือบัวรดน้ำต้นไม้ก็ได้ เสร็จแล้วฉีดหรือรดไปตามพื้นและกรงสุนัขให้ทั่วทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงค่อยล้างออก ( หรือไม่ล้างออกก็ได้ ไม่มีอันตรายใดๆต่อสุนัข ) ในครั้งต่อๆไปให้นำจุลินทรีย์ผสมกับน้ำ อัตราส่วน จุลินทรีย์ 1 ส่วน ต่อน้ำ 5 ส่วน หรือ 10 ส่วนก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความแรงของกลิ่นและปริมาณของเสีย ( ฉี่และมูลสุนัข ) การใช้ จะใช้ทุกๆวัน หรือวันเว้นวัน หรือ 2-3 วัน/ครั้งก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับของเสียและกลิ่น ถ้ากลิ่นไม่ค่อยมีและของเสียน้อย 2-3 วันใช้ครั้งก็สามารถทำได้  อาจใช้จุลินทรีย์ผสมกับน้ำสะอาดอาบน้ำให้กับสุนัขก็สามารถทำได้ ( แต่ห้ามใช้ร่วมกับเคมีหรือแชมพู ) อัตราส่วน จุลินทรีย์ 1 ส่วน ต่อน้ำสะอาด 10 ส่วน  แต่ถ้าจะผสมให้สุนัขกินให้ใช้จุลินทรีย์ 1 ส่วน ต่อน้ำ  50 ส่วน ซึ่งจะช่วยให้ระบบการย่อยของสุนัขได้ดีขึ้น และยังช่วยลดกลิ่นไปในตัว ( ทั้งกลิ่นฉี่และมูล ) ไม่มีอันตรายใดๆต่อสิ่งมีชีวิต เพราะในร่างกายของเราทุกคนก็มีจุลินทรีย์ชนิดนี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อสุนัขและสัตว์เลี้ยงทั่วไป  ซึ่งในทางปศุสัตว์นิยมนำจุลินทรีย์ผสมกับน้ำให้ วัว ควาย หมู กินแทนน้ำ ซึ่งจะช่วยในระบบการย่อยและกลิ่นต่างๆไม่รุนแรง  เนื่องจากมีกลิ่นน้ำตาลไหม้ ( ออกหอม ) ดังนั้นเจ้าของสุนัข สามารถนำจุลินทรีย์ผสมกับน้ำ 1 ต่อ 100 สเปรย์ปรับอากาศให้กับสุนัขในกรงหรือในคอกได้ ซึ่งจะช่วยในด้านสภาวะแวดล้อมให้บรรยายกาศของสุนัขและสุขภาพจิตดีขึ้น ไม่เครียด แล้วสุนัขของท่านก็อยู่อย่างมีความสุข กรณีสุนัขเป็นหิดหรือเรื้อนให้นำจุลินทรีย์สดๆอาบให้ได้เลย ขนที่ร่วงไปจะขึ้นมาใหม่ภายใน 1-2 เดือนและอาการก็จะหายไปโดยไม่ต้องใช้ยาหรือสารเคมีใดๆ ถ้าอาบน้ำด้วยจุลินทรีย์ให้กับสุนัขเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดหิด เรื้อน ได้และช่วยให้สุขภาพสัตว์เลี้ยงดีขึ้น
ที่มา//  http://www.bangkokshow

วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

โรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานที่ได้จากขยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก


เกาหลีไต้ได้ทำการเปิดตัวโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานที่ได้จากขยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 
โดยคาดว่าทางประเทศจะสามารถลดการนำเข้าน้ำมันได้กว่า 500,000 บาร์เรลต่อปี โดยที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวมีขนาด 50 เมกะวัตต์ 
ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อสามารถจ่ายพลังงานให้กับภาคครัวเรือนได้กว่า 180,000 ครัวเรือน และตั้งอยู่ที่จุดทิ้งขยะในตัวเมือง Incheon ทางตะวันตกของกรุงโซล
โดยเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงไฟฟ้าก็คือ แก๊สมีเทน

ซึ่งได้มาจากการย่อยสลายของกองขยะและสิ่งปฏิกูลตามธรรมชาติ ซึ่งจะสามารถลดการปล่อยแก๊สที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกจากการเผา 
และยังสามารถลดการใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ (Fossil fuel) ที่จะนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้อีกด้วย โดยทางประเทศเกาหลีใต้กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังงานขยะจะสามารถลดการนำเข้าน้ำมันของประเทศได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 1.37 ล้านตันต่อปี

บริษัทเอกชน Eco Energy ได้ทำการลงทุนกว่า 7.7 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 3 พันล้านบาท) ในการสร้างโรงไฟฟ้าชนิดนี้ขึ้นมา โดยทางบริษัทจะมีกรรมสิทธิ์อีก 11 ปีข้างหน้า ก่อนที่จะคืนสิทธิให้กับทางรัฐบาล
ในประเทศเกาหลีใต้นั้น ก็ยังมีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแก๊สมีเทนที่ได้จากการย่อยสลายของกองขยะอยู่อีก 12 โรง ซึ่งทุกโรงก็ล้วนแต่เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีกำลังผลิตตั้งแต่ 1 – 6 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้สำหรับบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น ซึ่งนับเป็นจำนวนไม่กี่ครัวเรือน และในปัจจุบันพลังงานกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศเกาหลีใต้นั้นมาจาก โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
โดยทางเกาหลีใต้ก็กำลังดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ (Solar power station) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เมืองซีนาน (Sinan) ในมลรัฐ South Jeolla 
ซึ่งจะมีขนาด 15 เมกะวัตต์ อีกทั้งโรงไฟฟ้าพลังคลื่นน้ำ (Shihwa Tidal power plant) ที่จะถูกสร้างที่เมืองอันซาน (Ansan) ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าโรงไฟฟ้าพลังคลื่นน้ำ La Rance ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังคลื่นน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน โดยกำลังผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังคลื่นน้ำที่เมืองอันซาน จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ครอบคลุมความต้องการพลังงานของผู้คนในเมืองอันซานกว่า 500,000 คน 
ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2009 นี้
จาก

ที่มา : เว็บไซด์วิชาการดอทคอม